“กล้วยปิ้ง” แนะนำอาหารทานเล่นเมนูอร่อยถูกใจสุขภาพดีแน่นอน
...
นิสัยที่ไม่ควรทำเบเกอรี่ คุณล้มเหลวในการอบขนมหรือไม่ ก่อนหน้านี้เคยมีความสงสัยมั้ย ว่าทำไมทำทุกอย่างตามสูตร แต่ยังพังไม่เป็นท่า…อันที่จริงแล้วเรื่องเหล่านี้มีที่มา เพราะการทำขนมนั้นไม่ใช่เพียงแค่ทำตามสูตรเท่านั้น แต่คุณยังต้องเข้าใจด้วยว่าสูตรเหล่านั้นหมายถึงอะไร สัญลักษณ์ต่างๆ ในข้อความ ทั้งหมดเป็นศัพท์เฉพาะ ซึ่งถ้าหากคุณไม่เคยหาข้อมูลด้านความหมายมาก่อนเลย และยังทำผิด ๆ ต่อไป ก็จะกลายเป็นนิสัยการอบที่นำไปสู่ความผิดพลาดได้อย่างแน่นอน
ควรอ่านขั้นตอนและจัดเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดก่อนเริ่มทำตามสูตรเสมอ การทำไปอ่านไปไม่เป็นผลดี เพราะถ้ามีอุปกรณ์หรือส่วนผสมบางอย่างไม่ครบระหว่างทาง คุณมักจะใช้การประยุกต์ และนั่นทำให้มือใหม่ล้มเหลวได้ง่ายๆ สูตรขนมของเชฟมืออาชีพบางอย่างไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้คุณประยุกต์ ขนมอบเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้าพลาดลัดขั้นตอนไปก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
แนวคิดที่ว่า “เติมนี่นิด เติมนั่นหน่อย” ไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับขนมอบ ขนมอบทุกชนิดต้องการความเป๊ะในสูตรของตน การที่คุณกะเอาเรื่อยๆ ทำให้ส่วนผสมไม่เที่ยง และเกิดรสสัมผัส เนื้อขนม ที่ไม่ใช่ตามมา เช่น ซูเฟล่ มาการอง สิ่งเหล่านี้มีขั้นตอนที่ยิบย่อยมาก อัตราส่วนที่ไม่ถูกต้องทำให้ทุกอย่างผิดเพี้ยน
เครื่องหมายจุลภาค , (Comma) ในสูตรขนมไม่ได้วางไว้เล่นๆ เพื่อแบ่งวรรคตอน แต่ที่จริงแล้วมีความหมายในตัวด้วย ยกตัวอย่างข้อความ “แป้งสาลี 1 ถ้วย, ร่อน” หรือ “ถั่ววอลนัต ½ ถ้วย, สับ” เครื่องหมายนี้กำลังบอกคุณว่าให้คุณทำการตวงส่วนผสมก่อน จากนั้นจึงค่อยดำเนินการสับ ถั่ววอลนัตที่เป็นเมล็ดกับแบบสับแล้วในปริมาณ ½ ถ้วยย่อมไม่เท่ากัน ดังนั้น “ถั่ววอลนัต ½ ถ้วย, สับ” มีความหมายว่า ให้คุณทำการตวงถั่ววอลนัตแบบเมล็ดก่อน 1 ถ้วยตวง จากนั้นจึงนำถั่วในถ้วยตวงที่ได้มาสับ
คุณกำลังใช้ความง่ายเข้าว่า อาจเพราะคุณมองว่า 100 มล. = 100 กรัม ดังนั้นคุณจึงเลือกใช้เครื่องตวงปนๆ กันไปทั้งแบบแห้งและเหลว อันที่จริงแล้วความหนาแน่นของของเหลวกับของแข็งไม่เหมือนกัน ถ้าคุณใช้เครื่องตวงปนกันมีโอกาสสูงที่จะทำให้ปริมาณเพี้ยนไปจากสูตร นี่ก็เป็นสาเหตุที่เนื้อเค้กของคุณแน่นเกินไป ทีนี้ก็รู้แล้วใช่มั้ยว่าทำไมมือใหม่มักมีคำถามว่า “ก็ทำตามสูตร ทำไมยังพัง” วิธีที่แม่นยำที่สุดคือใช้เครื่องชั่งดิจิตัล
การทำเบเกอรี่ คุณไม่สามารถเอาแป้งเปียกๆ เข้าเตาอบ จากนั้นปรับความร้อน แล้วรอครบเวลาตามสูตรได้ เพราะขนมอบทุกสูตร คุณต้องขีดเส้นใต้ตัวโตๆ ไว้เลยว่า มันต้องได้รับความร้อนเท่าในสูตรตั้งแต่วินาทีแรกที่เอาเข้าเตาอบ หากสูตรเขียนไว้ว่า 220 องศาฟาเรนไฮซ์ คุณต้องเผื่อเวลาประมาณ 10 นาทีก่อนเอาแป้งเปียกเข้าเตาเพื่ออบเตาเปล่าๆ จากนั้นเมื่ออุณหภูมิเตาถึงระดับที่ต้องการแล้ว คุณจึงสามารถใส่ถาดแป้งขนมของคุณเข้าไปได้
แม้ผงฟูและเบกกิ้งโซดาจะมีความคล้ายกัน แต่ที่จริงแล้วแตกต่างกันพอสมควร เพราะเบกกิ้งโซดาต้องผสมกรดก่อนใช้งาน (เช่น น้ำมะนาว น้ำส้มสายชู บัตเตอร์มิลค์) ในทางกลับกันผงฟูมีกรดอยู่ในตัวแล้ว ดังนั้นหากคุณใช้ผิดประเภท ขนมของคุณจะมีเนื้อสัมผัสที่เพี้ยนไปจากสูตร ไม่นุ่มฟูเท่าที่หวัง
ขอแนะนำเว็บ อาหารไทยยอดนิยม รวมอาหาร ที่จะทำให้คุณสนุกกับการดูข้อมูลอาหาร และ นิสัยการทำเบเกอรี่ที่ไม่ดี ควรเลิกก่อนจะสายเกิน ควรเตรียมส่วนผสมอย่างถูกต้อง
บราวนี่ เบเกอรี่นั้นเป็นประเภทหนึ่งของขนมหวานที่ได้รับความนิยมจากทั่วทุกมุมโลก โ...
บราวนี่ไมโครเวฟ เป็นหนึ่งในขนมหวานที่เหล่าผู้หญิงชื่นชอบมาก และกระบวนการทำส่วนใหญ่ต้องมี “...
ไอศครีมรูปสัตว์สุดน่ารัก หากพูดถึงไอศครีมยี่ห้อนี้ที่ชื่อว่า IceDEA ซึ่งเป็นไอศครีมยี่ห้อที่หล...