อาหารเช้าเมนูที่แสนทำง่ายและมีประโยชน์

อาหารปกติแล้วคนเรานั้นต้องรับประทานให้ครบทั้ง 5 หมู่ และยิ่งเป็นอาหารเช้าด้วยแล้วยิ่งสำคัญ เพราะอาหารเช้าถือว่าเป็นอาหารหลักที่ช่วยบำรุงสมองของคนเรานั้นให้มีความคิดความอ่านที่ดีขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากการที่แต่ละคนมักจะให้ความสำคัญด้วยการบำรุงด้วยอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นจำพวกไข่ที่มีโปรตีนที่มีความสำคัญต่อร่างกายหรือจะเป็นน้ำส้มที่ดื่มแล้วมีสารที่ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายมีวิตามินที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวพรรณดูผ่องใส เปล่งปลั่ง นอกจากนี้แล้วยังมีจำพวกขนมปังที่เสริมสร้างสารที่สำคัญต่อร่างกายอย่างคาร์โบไฮเดรตให้แก่ร่างกายไม่แพ้จำพวกข้าวเลย เป็นต้น และในที่นี้เราจะมาแนะนำอาหารเช้าที่เป็นเมนูง่ายๆที่ใครๆก็สามารถทำได้และมีประโยชน์อีกด้วย ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้   1. ข้าวต้ม เป็นอาหารเช้าที่คนไทยมักจะนึกถึงเป็นอาหารแรกๆของวัน เพราะด้วยการทำที่ง่ายมากๆ เพียงแค่คุณเตรียมข้าวสวยอย่างดีพร้อมกับการเติมน้ำลงไป แล้วรอให้ข้าวนั้นสุกจนแตกเม็ดละเอียด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ข้าวต้มในแบบที่คุณต้องการแล้ว คุณจะเติมผักหรือใส่หมู ใส่กุ้ง หรือใส่ปลาก็ได้แล้วแต่คุณจะชอบ ทั้งง่ายและมีประโยชน์มากๆเลยค่ะ 2. ข้าวไข่เจียว เป็นอาหารเช้าที่ค่อนข้างเบสิกมากๆสำหรับคนไทยและเป็นเมนูฮิตที่ลงมือทำง่าย อีกทั้งยังเสริมประโยชน์ให้แก่ร่างกายในตอนเช้าๆให้มีแรงที่จะทำงานอีกด้วย ขั้นตอนนั้นก็ง่ายมากเลย เพียงแค่คุณเตรียมไข่ไก่มา 1 ฟอง จากนั้นคุณก็ตอกไข่ใส่ถ้วยแล้วตีให้เข้ากัน เหยาะน้ำปลานิดหน่อย จากนั้นก็ตั้งกระทะใส่น้ำมันรอให้กระทะร้อนแล้วนำไข่เจียวไปทอดได้เลย ทั้งเป็นเมนูอาหารเช้าที่ง่ายและประหยัดเวลาในตอนเช้าๆได้เลย       3. แซนด์วิช เป็นอาหารเช้าที่นำขนมปังมาดัดแปลงได้หลากหลายแบบ ทั้งแบบตัดเป็นสามเหลี่ยม หรือจะรับประทานทั้งๆที่ไม่มีการตัดเลยก็ได้ เป็นอาหารเช้าที่ทำง่ายมากๆสำหรับตอนเช้าที่มีการเร่งรีบไปทำงานและเป็นอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย เพราะมีทั้งแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ และไขมัน         คุณจะเห็นได้ว่า อาหารเช้าที่ยกตัวอย่างมานั้นเป็นอาหารเช้าที่คุณเองสามารถทำได้ในมื้อเช้าของแต่ละวัน และประโยชน์ของอาหารเช้าแต่ละอย่างนั้นก็มีคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย   #https://lisergia.org/#อาหารเช้า#อาหารที่มีประโยชน์

ข้าวผัดต้มยำกุ้ง เมนูสุดแซ่บ จี๊ดจ๊าด

พบกับเมนูอร่อยๆ กับเราในวันนี้นะครับ ข้าวผัดต้มยำกุ้ง เมนูที่ผสมผสานระหว่างข้าวผัดธรรมดาและต้มยำ อาหารสุดแซ่บที่เราคุ้นเคย โดยการนำเมนูอาหารสุดคลาสสิก 2 เมนูที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างนานแสนนานนั้น มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนเกิดเป็นเมนูใหม่ที่เพิ่มมูลค่าและอร่อยมากยิ่งขึ้น เพิ่มความแซ่บให้กับอาหารจานโปรดของใครต่อใครหลายคน ส่วนประกอบของข้าวผัดต้มยำกุ้ง น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำพริกเผา ข่า ใบมะกรูดหั่นฝอย น้ำตาลทราย พริกขี้หนูสับ กุ้ง เห็ดหั่นฝอย วิธีการทำข้าวผัดต้มยำกุ้ง เทน้ำมันลงไปในกระทะ เมื่อน้ำมันร้อนแล้ว นำข่าที่โขลกไว้ใส่ลงไป ดับคาวกุ้งด้วยข่า หลังจากที่เราใส่ข่าโขลกไปแล้ว เราก็นำกุ้งสุดใส่ลงไป เพื่อให้กลิ่นของข่าดับความขาวของกุ้ง เมื่อเคล้ากันได้ที่แล้วก็นำออกจากกระทะแล้วนำไปพักไว้ หลังจากนั้นนำน้ำมันใส่อีกทีนึง  ตามด้วยน้ำพริกเผา เห็ดหั่นฝอย ผัดให้เข้ากันนะครับ เมื่อคลุกเคล้าเข้ากันเรียบร้อยแล้ว เพิ่มความเผ็ดด้วยพริกขี้หนูสวนสีเขียว สีแดง หลังจากนั้นนำข้าวสวยลงมาผัดกับเครื่องเมื่อสักครู่นี้ ข้าวที่เราผัดนั้นเราจะไม่สับข้าวเราใช้วิธีผัดแยกตัวข้าวออกจากกัน ข้าวจะไม่เป็นก้อน การผัดข้าวเราควรผัดข้าวให้สีของเครื่องปรุงเท่ากัน สม่ำเสมอ ขณะที่ผัดข้าวเราจะใช้ไฟแรงเพื่อความสวยของข้าว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และทำการคลุกเค้าให้เข้ากัน โดยเปิดไฟแรงเพื่อความสวยงามของข้าว กลิ่นหอมของข้าว กับความร้อนที่สัมพันธ์กับกระทะนั้นยิ่งทำให้เมนูข้าวผัดต้มยำกุ้งของเรานั้นน่าทานมากยิ่งขึ้นครับ เมนูง่ายๆ ที่พ่อบ้านแม่บ้านมือใหม่สามารถทำตามได้ ข้าวผัดต้มยำกุ้ง เท่านี้ก็พร้อมเสริฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การตกแต่งหน้า ข้าวผัดต้มยำกุ้ง โดยเราจะใช้กุ้งที่เราผัดกับข่าเมื่อสักครู่นี้วางไว้บนหน้าข้าว จากนั้นใส่ใบผัดชี ใบมะกรูดหั่นฝอย พริกชี้ฟ้าแดง […]

ซูชิไก่กอและ ประยุกต์อาหารไทย ดีต่อใจและดีต่อสุขภาพ

KO-LAEH CHICKEN SUSHI วันนี้ แอดมีเมนูใหม่ สำหรับคนรักสุขภาพ มานำเสนอค่ะ  ซูชิไก่กอและ ประยุกต์อาหารไทย ดีต่อใจและดีต่อสุขภาพ ในปัจจุบัน การใช้ชีวิต ของคนยุคใหม่เปลี่ยนแปลงไป มีวิถีชีวิต ที่สะดวกสบายมากขึ้น ให้เคลื่อนไหว ร่างกายน้อยลง สภาวะเศรษฐกิจ ที่ตึงเครียด รวมทั้งการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา รับประทานอาหาร รสหวานมันเค็ม ล้วนเป็นปัจจัย ที่สำคัญ ในการก่อให้เกิดโรคต่างๆ มากขึ้นกลุ่มโรค NCDs หรือ non-communicable diseases เป็นกลุ่ม โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คือ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถแพร่กระจาย จากคนสู่คนได้ แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิต อาทิเช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานโรคมะเร็ง รวมทั้งโรคหลอดเลือดและหัวใจ เป็นต้น ทุกอย่าง ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นภัยเงียบ ที่พบได้ในคนส่วนใหญ่ ที่ไม่มีเวลา หรือใส่ใจว่า อะไรดีต่อสุขภาพ จากรายงาน ของกระทรวงสาธารณสุขปี 2558 เผยว่าตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีคนไทยป่วย และเสียชีวิต จากโรคกลุ่มนี้ เป็นอันดับที่หนึ่ง และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากผลการสำรวจ […]

Amazake 2

Amazake เป็นเครื่องดื่มที่มีรสหวานตามที่บอกไว้ในชื่อของมันซึ่งแปลว่า “สาเกหวาน” แม้ว่ามันจะมีเพียงแอลกอฮอล์ปริมาณเล็กน้อยเนื่องจากกระบวนการหมัก เนื่องจากการแปลนั้นการค้นหาในร้านสะดวกซื้ออาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นซึ่งควรพิจารณาขอชื่อแบรนด์เช่น Hiyashi Amazake หรือ Marumi-koji-honten เพื่อหลีกเลี่ยงการดื่มเหล้าสาเกแทน   เมื่อฉันจิบเครื่องดื่มฉันรู้สึกประหลาดใจกับเนื้อก้อนคล้ายกับโจ๊กข้าวเนื่องจากโคจิชิ้นเล็ก ๆ แขวนอยู่ในของเหลว ที่ประมาณ 80 แคลอรี่ต่อ 100 กรัมจะมีสุขภาพที่ดีกว่าเนื้อครีมในตอนแรกและแฟน ๆ ของ amazake อ้างว่ามันสามารถส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อร่างกายทุกส่วนรวมถึงการเจริญเติบโตของเส้นผมการสูญเสียน้ำหนัก   เนื่องจากสารอาหารซึ่งรวมถึง B6, กรดโฟลิก, กรด ferulic, ใยอาหารและกลูโคสในปริมาณที่โดดเด่นหลายคนอ้างว่าสมควรได้รับสถานที่ในการรักษาอาการเมาค้างของญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงเครื่องดื่มที่ทำจากขมิ้นหรือตับเนื้อ ทำความสะอาดอวัยวะที่เฉพาะเจาะจง และสารอาหารที่ปราศจากกลูเตนที่ย่อยง่ายและย่อยได้นั้นทำให้ได้รับสมญานามว่า“ drinkable IV” ซึ่งเป็นสิ่งที่ซึกิฮาระยืนยันจากประสบการณ์   “ ฉันมักจะมีมันเมื่อฉันเป็นหวัดหรือมีไข้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันไม่อยากอาหาร” เขากล่าว “ Amazake เป็นอะไรที่ง่ายกว่าในการกลืนอร่อยและด้วยพลังของเอนไซม์ทำลายแป้ง [ที่พบในโคจิ] มันเป็นอาหารที่ย่อยง่ายเช่นระบบย่อยอาหาร”   คุณภาพของมันนั้นยังคิดว่าจะไปไกลกว่าประโยชน์ต่อสุขภาพ ในฐานะที่เป็นมิซากิ (文咲) นางแบบและเอกอัครราชทูต LaQua ในโตเกียวอธิบายว่าเครื่องดื่มเป็นที่รักของชุมชนความงาม “ กลุ่มวิตามินบีที่อยู่ในแอมะแซคนั้นเกี่ยวข้องกับเมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรตไขมันและโปรตีนผิวหนังและเส้นผม” เธอบอกฉันทางอีเมล “ ดังนั้นคาดว่าจะมีผลกระทบความงาม Amazake ยังมีส่วนผสมที่เรียกว่า ergothioneine สารต้านอนุมูลอิสระที่มีผลในการยับยั้งการเกิดริ้วรอยบนผิว” […]

การกินแบบ Ketogenic 2

คีโตเจนิคไดเอทคืออะไร? กินไขมันอย่างไรให้ผอม การกินแบบ Ketogenic 2.ผัก: ผักใบเขียวทุกชนิด กินได้ไม่ต้องนับคาร์บ (หลีกเลี่ยงผักหัวใต้ดินอย่างแครอทและมันทั้งหลาย, ถั่วฝักยาว, ถั่วแขก, ฟักทอง) มะเขือเทศ, มะเขือยาว, กะหล่ำดอก, บรอคโคลี, แอสพารากัส – มีคาร์บบ้าง นับไว้ปลอดภัยกว่า ​ 3.ไขมัน: น้ำมันมะกอก, น้ำมันมะพร้าว, เนย, น้ำมันไฮโซ เช่น อะโวคาโด แมคคาเดเมีย, กะทิ! (น้ำมันพืชใช้ได้เล็กน้อย) ​ตัวอย่าง – แกงเขียวหวานไก่, สลัดราดน้ำมันมะกอกและบัลซามิค, ปลาทอดเนย ​หมายเหตุ: น้ำมันมะพร้าวและกะทิ มีไตรกลีเซอไรด์สายสั้นที่ร่างกายจะนำไปใช้ก่อน แทนที่จะมาเอาไขมันในร่างกายไปใช้ -อย่ากินเป็นหลัก กินไขมันจากที่อื่นด้วย ​ 4.ผลิตภัณฑ์นม: ชีสทุกชนิด, เนย (ห้ามมาการีน), ครีมชีส, ครีม, วิปครีม -ทุกอย่าง full fat ​ 5.ถั่ว: ถั่วที่อนุญาตให้ทานคือ ถั่วเมล็ดเดี่ยว(nuts)  เช่น อัลมอนด์ พิชตาชิโอ มะม่วงหิมพานต์ […]

การกินแบบ Ketogenic 1

คีโตเจนิคไดเอทคืออะไร? กินไขมันอย่างไรให้ผอม การกินแบบ Ketogenic ปัจจุบันนี้กระแสการลดน้ำหนักเปลี่ยนไปเรื่อยๆทุกปีไม่ต่างกับเทรนด์แฟชั่น ซึ่งในตอนนี้กระแสการกินแบบใหม่ที่ช่วยลดน้ำหนักที่กำลังได้รับความนิยมนั่นคือ คีโตเจนิค ไดเอต (Ketogenic Diet) หรือที่เรียกกันว่า คีโต ไดเอต (Keto Diet) ที่ยิ่งกินไขมันเท่าไร น้ำหนักก็ยิ่งลด! การกินแบบนี้คืออะไร ไขมันจะไปช่วยเบิร์นไขมันกันเองได้อย่างไร ช่วยให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว  จริงหรือไม่และเพราะอะไร? เราจึงขอสรุปให้ผู้ที่อยากลองไดเอตด้วยการกินอาหารที่มีไขมันแบบไม่รู้สึกผิดเหมือนการลดน้ำหนักแบบอื่นๆ มาฝากกันค่ะ คีโตเจนิค ไดเอต คืออะไร การกินอาหารแบบคีโตเจนิค ไดเอต (Ketogenic Diet) คือการกินที่เน้นไขมันสูง รองมาด้วยโปรตีน  โดยลดคาร์โบไฮเดรตให้เหลือในปริมาณที่น้อยมากๆ ลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลให้น้อย แต่ให้แทนที่ด้วยไขมันทั้งจากพืชและสัตว์แทน เป้าหมายของการบริโภคอาหารวิธีนี้คือการทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะ “คีโตซีส” (ketosis) เนื่องจากร่างกายไม่มีน้ำตาลกลูโคสจากคาร์โบไฮเดรต จึงทำให้ต้องดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานแทน ไขมันให้มากที่สุด (High-Fat) 75-80% แบ่งเป็น –  Saturated fat (ไขมันอิ่มตัว) 30% –  Monounsaturated fat (ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว) 50% –  Polyunstaurated fat (ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน) 20%   […]